ดูดไขมันเหนียง
ใครๆ ก็อยากหน้าเรียวได้รูป และวิธีดูดไขมัน กำจัดเหนียง ก็ถือว่าเป็นเทคนิคยอดนิยมที่ใครๆ ก็อยากลองทำ เพราะให้ผลลัพธ์รวดเร็ว แถมเจ็บตัวน้อย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสี่ยงเกิดรอยแผลเป็นบนใบหน้า แต่แน่ใจแล้วหรอ? ว่าปัญหาที่เป็นอยู่ เช่น หน้าบาน,หน้าบวมดูอ้วนกลม ไม่ได้รูปที่เป็นอยู่นั้น เหมาะกับการแก้ไขด้วยเทคนิคดูดไขมันแล้วจริงๆ บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลว่า เทคนิคดูดไขมันหน้า เป็นนวัตกรรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาด้านใดกันแน่ และรูปหน้าแบบไหน ทำแล้วเห็นผลชัดเจนสุด
ดูดไขมันหน้า – กำจัดเหนียง คืออะไร?
การดูดไขมันเหนียง และกรอบหน้า (Double Chin Liposuction) เป็นการใช้เทคนิคศัลยกรรมเปิดแผลขนาดเล็กเพียง 0.1 ซ.ม.ร่วมกับเครื่องดูดไขมัน ซึ่งตำแหน่งที่เปิดแผล ได้แก่ บริเวณหลังติ่งหู บริเวณใต้คาง หรือในตำแหน่งผิวหน้าที่ต้องการเอาไขมันออก หลังจากนั้นจะทำการฉีดน้ำเกลือชนิดพิเศษ เพื่อขยายบริเวณ หรือเคลียร์พื้นที่ ก่อนให้หัวดูดไขมันเข้าไปสลายไขมันให้แตกตัว และทำการดูดออกมาโดยที่เส้นประสาท และเนื้อเยื่อรอบข้างเสียหายน้อยที่สุด
ดูดไขมัน กำจัดเหนียง เหมาะกับแก้ปัญหาเรื่องใด
การดูดไขมัน และกำจัดเหนียง หรือคางสองชั้น เป็นวิธีที่แก้ปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกินได้เพียงอย่างเดียว ซึ่งไขมันที่เกาะอยู่จนทำให้ใบหน้ากลม มีเหนียง ไม่กระชับ ทำให้หน้าดูอ้วนฉุ เกิดได้หลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์, อายุที่มากขึ้น และพฤติกรรมการใช้ชีวิต การกินอาหารที่มีแป้งและไขมันเยอะ ไม่ออกกำลังกาย เป็นต้น
ซึ่งการดูดไขมันหน้า ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อ กระดูก และความหย่อนคล้อยของผิวหนังได้ หากคนไข้มีใบหน้าที่ใหญ่ เพราะสันกรามกว้างและหนา จะต้องใช้วิธีผ่าตัดศัลยกรรมกระดูกกราม หรือหากมีมัดกล้ามเนื้อหนาจนทำให้ใบหน้ากางใหญ่ สามารถแก้ไขได้ด้วยหัตถการความงาม เช่น ฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง
ดูดไขมันหน้า เหนียง เหมาะกับใคร
การดูดไขมันหน้า เหนียงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินเป็นหลัก และให้ผลลัพธ์ที่ดีในผู้ที่มีปัญหาเฉพาะจุดดังนี้
- คนที่มีรูปหน้ากลม เพราะมีไขมันสะสมบริเวณแก้ม
- คนที่มีไขมันสะสมบริเวณใต้คาง ทำให้คางดูสั้น
- คนที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับใบหน้าตัวเอง
- คนที่ยังมีความยืดหยุ่นของผิวหนังดี ผิวไม่เหี่ยวย่นจนเกินไป เพราะอาจต้องทำร่วมกับเทคนิคการยกกระชับผิว
ดูดไขมันหน้า เหนียง ไม่เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีอายุเยอะ มีผิวหน้าเหี่ยว หย่อนคล้อย ซึ่งควรใช้วิธีผ่าตัดจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้ากลม อันเกิดจากกระดูกที่ใหญ่
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่ได้รูป อันเกิดจากกล้ามเนื้อใหญ่
- ผู้ที่มีปัญหาการระบบไหลเวียนโลหิต
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ
- ผู้เป็นโรคเบาหวาน
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ผลข้างเคียงจากการดูดไขมันหน้า เหนียง
แม้ว่าการดูดไขมันหน้า และกำจัดเหนียง จะเป็นการเปิดแผลขนาดเล็ก เจ็บตัวน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่หลังทำก็มีผลข้างเคียงที่ต้องคอยดูแลดังนี้
- มีอาการบวม แดง ช้ำเขียว ตรงจุดที่ดูดไขมัน ซึ่งสามารถประคบเย็น และทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ และจะค่อยๆ หายเป็นปกติประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
- มีน้ำไหลออกมาจากจุดแผล ซึ่งเป็นน้ำเกลือและยาชา ไม่เป็นอันตรายใดๆ
- เลือดหยุดไหลช้า ซึ่งเกิดได้จากกรณีที่คนไข้ไม่หยุดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม หรือตัวยาบางชนิด ซึ่งไปกระตุ้นทำให้เลือดแข็งตัวช้า
ข้อดีของการดูดไขมันหน้า เหนียง
- สร้างความมั่นใจด้วยใบหน้าที่เรียวเล็กลง กรอบหน้าชัดมีมิติ
- เห็นผลหลังทำเสร็จทันที
- เป็นการกำจัดเซลล์ไขมัน โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง
- ปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อย
- ไม่ก่อให้เกิดรอยแผลเป็น เพราะใช้เข็มเล็กขนาดพิเศษ และแพทย์เปิดปากแผลเล็กเพียง 0.1 ซ.ม.
เลือดออกน้อย
ข้อเสียของการดูดไขมันหน้า เหนียง
ด้วยเทคโนโลยีการดูดไขมันในปัจจุบัน มีความปลอดภัยสูง แต่หากเลือกทำกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือโรงพยาบาลที่เลือกใช้เครื่องมือไม่ทันสมัย ไม่ได้มาตรฐาน ย่อมทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่สวย และส่งผลเสียต่อสุขภาพผิว
- ผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน ไม่สม่ำเสมอ เกิดร่องจากการดูดไขมันไม่ที่แพทย์ไม่เชี่ยวชาญในการใช้เครื่องดูดไขมัน หรือเครื่องดูดไขมันมีประสิทธิต่ำ ไม่ได้มาตรฐาน
- เนื้อเยื่ออักเสบ หากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ
- ระบบเลือดและน้ำเหลืองอักเสบ แผลหายช้า
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันหน้า เหนียง
ก่อนวันนัดดูดไขมันหน้า กำจัดเหนียง คนไข้ต้องมีการเตรียมตัว เพื่อป้องกันความเสี่ยงอันเกิดขึ้นได้ดังนี้
- แจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพ้ยาชา ยาสลบ และเพื่อให้แพทย์ประเมินการดูแลแผลหลังผ่าตัดได้อย่างถี่ถ้วน
- ตรวจเลือด เพื่อเช็คเกร็ดเลือด และระดับการแข็งตัวของเลือด
- ดูแลสุขภาพผิวหน้าให้แข็งแรง ไม่เกิดแผล หรือผิวอักเสบ
- งดยากลุ่มแอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดแต่งหน้า หรือทาครีมที่ใบหน้าก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ และเครื่องดื่มชูกำลัง ที่กระตุ้นการสูบฉีดเลือด
- ในกรณีผ่าตัดโดยใช้ยาชา งดรับประทานอาหารอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
- ในกรณีผ่าตัดที่ต้องวางยาสลบ งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัด
การดูแลหลังดูดไขมันหน้า เหนียง
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำ-ล้างหน้า ใน 1 วันแรกหลังดูดไขมัน เพื่อป้องกันรอยแผลโดนน้ำ
- หมั่นดูแลความสะอาดแผล ทายา 1-2 ครั้งต่อวัน
- หลีกเลี่ยงให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ อย่างน้อย 7 วัน
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือการเคลื่อนไหวร่างกายที่อาจทำให้แผลอักเสบ หายบวมช้า
- ดื่มน้ำให้เยอะๆ เพื่อให้ร่างกายขับยาชาออก
- งดสูบบุหรี่-งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้แผลหายไวขึ้น
คำถามที่พบบ่อย ในลูกค้าที่สนใจดูดไขมันหน้า-เหนียง
Q : ดูดไขมันหน้า เหนียง อันตรายไหม?
A : ในปัจจุบันการดูดไขมันไม่อันตรายใดๆ หากอยู่ภายใต้การดูแลจากโรงพยาบาล หรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือคุณภาพสูง และทำโดยศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ อีกทั้งต้องมีวิสัญญีแพทย์ คอยดูแลเรื่องการฉีดยาชา – ยาสลบ และคอยสังเกต ติดตาม และช่วยเหลือ หากคนไข้มีอาการแพ้ยาชา – ยาสลบ
Q : ดูดไขมันหน้า เหนียง เสี่ยงแพ้ยาชา – ยาสลบหรือไม่?
A : สำหรับอาการแพ้ ที่เกิดจากยาชา หรือยาสลบ เป็นไปได้น้อยมาก หากเลือกทำกับโรงพยาบาลศัลยกรรม ที่มีเครื่องมือครบวงจร และมีการตรวจเลือด มีวิสัญญีแพทย์คอยประเมิน ดูแล ติดตาม และช่วยเหลือจนคนไข้ผ่านขั้นตอนการผ่าตัดไปด้วยดี แต่ก็มีบางรายที่เกิดอาการแพ ที่ไม่ได้เกิดจากการดูดไขมันโดยตรง แต่เกิดจากการใช้ยาสลบ หรือยาชา ซึ่งภาวะนี้จะขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของผู้ดูดไขมันแต่ละคน
Q : ดูดไขมันหน้า เหนียง ผลลัพธ์ถาวรไหม?
A : การดูดไขมันใบหน้า หรือบริเวณใต้คางเพื่อกำจัดเหนียง เป็นการเอาไขมันส่วนเกินออกได้อย่างถาวร แต่หากยังมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิมๆ เช่น การกินอาหารไขมันเยอะ ไม่ค่อยออกกำลังกาย ไขมันก็จะค่อยๆ กลับมาเหมือนเดิม
Q : ดูดไขมันหน้า เหนียง เจ็บไหม?
A : ปัจจุบันเทคนิคการดูดไขมันใบหน้า เหนียง จะทำการฉีดยาชาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นระหว่างทำจะไม่เจ็บ และหลังทำเสร็จเมื่อยาชาหมดฤทธิ์ จะมีอาการปวด ซึ่งบรรเทาได้ด้วยการกินยาแก้ปวด
Q : ดูดไขมันเหนียง บวมกี่วัน?
A : หลังดูดไขมันหน้า แน่นอนว่าจะต้องเกิดอาการบวมช้ำ และผิวอักเสบเป็นเรื่องปกติ ซึ่งสามารถบรรเทาอาการปวด และบวมได้ ด้วยยาที่แพทย์จ่ายให้ แต่ระยะเวลาการบวมจะอยู่ที่ 1 สัปดาห์ และจะค่อยๆ ยุบตัวเป็นปกติในสัปดาห์ที่ 3 – 4 ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลรักษาแผลผ่าตัดอย่างถูกต้อง และสม่ำเสมอ รับรองว่าอาการบวมจะหายได้ไวขึ้น
Q : ดูดไขมันหน้า เหนียง ทำให้ผิวย้วยไหม?
A : หลังดูดไขมันหน้า และเหนียง แพทย์จะมีสายกระชับผิวหนัง และแนะนำการนวดกระชับเหนียง หากทำตามคำแนะนำของแพทย์ มักจะไม่เกิดปัญหาผิวย้วย แต่ในผู้ที่มีสรีระหนา อ้วน และมีปัญหาผิวหนังเหี่ยวย่นอยู่แล้ว แพทย์ก็จะแนะนำให้ใช้เทคนิคกระชับผิวร่วมด้วย
Q : ดูดไขมันหน้า เหนียง อยู่ได้นานไหม?
A : จริงๆ แล้วการดูดไขมันหน้า และบริเวณเหนียง หรือไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันส่วนต่างๆ ในร่างกาย จะให้ผลลัพธ์ถาวรทั้งหมด แต่หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของคนไข้ ที่ต้องรักษาผลลัพธ์ให้ได้ เพราะหากยังใช้ชีวิตประจำวันเช่นเดิม กินแต่อาหารที่มีไขมันเยอะ แป้ง และของมัน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการสะสมไขมันในร่างกายอีกครั้ง
Q : ปริมาณมากของไขมัน ผลต่อความเจ็บระหว่างดูดไขมันหรือไม่
A : เมื่อแพทย์ประเมินการรักษา และเริ่มดูดไขมัน แน่นอนว่าจะมีช่วงที่ไขมันดูดไขมันออกจนหมด ก็จะยิ่งใกล้กับกล้ามเนื้อมากขึ้น ซึ่งในช่วงนี้เองจะทำให้เกิดรู้สึกเจ็บ ไม่เพียงเท่านั้น หากดูดในตำแหน่งที่ไขมันน้อยก็จะเกิดอาการเจ็บได้ แต่ล้วนแล้วเป็นความรู้สึกเจ็บที่ร่างกายทนได้
Q : หลังดูดไขมันหน้า เหนียง มีอาการเวียนหัว เกิดจากอะไร?
A : อาการเวียนหัว และอยากอาเจียนหลังจากดูดไขมันหน้า เกิดได้ 2 สาเหตุ คือ เป็นผลข้างเคียงจากยาชา และยาสลบ และสามารถเกิดได้จากภาวะที่ร่างกายขาดน้ำ เพราะก่อนดูดไขมัน ต้องงดการรับประทานอาหารและงดดื่มน้ำอย่างน้อย 3 -7 ชั่วโมง ดังนั้นทางที่ดี หลังดูดไขมันเสร็จ ควรดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
Q : ดูดไขมันหน้า เหนียง ราคาเท่าไหร่?
A : สำหรับค่าบริการผ่าตัดดูไขมันหน้า และกำจัดเหนียง มีราคาแตกต่างกันไปตามมาตรฐานคลินิกและโรงพยาบาล แต่โดยเฉลี่ยแล้วราคาจะอยู่ที่ 50,000 – 150,000 บาท
Q : ดูดไขมันหน้า เหนียง ทำที่ไหนดี?
A : สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก็คือ คลินิก หรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และมีชื่อเสียงที่ดีในด้านการดูดไขมัน ซึ่งมีทั้งโรงพยาบาลไทย และโรงพยาบาลเกาหลี ดังนี้
โรงพยาบาลศัลยกรรมประเทศไทย
- โรงพยาบาลยันฮี
- โรงพยาบาลกรุงเทพ
- โรงพยาบาลบางมด
- โรงพยาบาลวรรณสิริ
โรงพยาบาลศัลยกรรมประเทศเกาหลี
- โรงพยาบาลศัลยกรรมบาโนบากิ (Banobagi plastic surgery)
- โรงพยาบาลศัลยกรรม EU Oral & Maxillofacial Surgery
- โรงพยาบาลศัลยกรรม 345 (345 Plastic Surgery)
- โรงพยาบาลศัลยกรรมไอดี (ID Hospital)
- โรงพยาบาลศัลยกรรมโซลเฟซ (Seoulface21 Plastic Surgery)
สรุป ดูดไขมันหน้า เหนียง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาด้านใดมากที่สุด
การดูดไขมันเหนียง ถือเป็นวิธีลดเหนียงใต้คาง เพื่อปรับกรอบหน้าให้เรียวอีกวิธีหนึ่ง แต่จะเป็นการใช้เทคนิคที่ดูดเอาเฉพาะไขมันส่วนเกินออกเท่านั้น ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบนใบหน้าและใต้คาง ไม่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อใหญ่หนา หรือหน้ากลมบานเพราะกระดูก ดังนั้นหากผู้ที่กำลังสนใจดูดไขมันมันหน้า เพื่อให้ใบหน้าเรียวเล็กลง ควรปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เพื่อประเมิน ออกแบบและเลือกใช้เทคนิคการแก้ปัญหาให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัยและไม่ต้องเสี่ยงเจอผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์อีกด้วย