ฉีดไขมันที่หน้า แบบไหนดี

ปัจจุบันเทคนิคการฉีดไขมันเริ่มกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเทคนิคใหม่ที่ไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ฉีดไขมันที่ใบหน้า เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษไม่เพียงแต่ต้องใช้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับศาสตร์ของการย้ายและปลูกถ่ายไขมัน แต่ยังต้องใช้ศิลปะและประสบการณ์ในการออกแบบใบหน้าอีกด้วย โดยโรงพยาบาลกาลึมฮานเป็นโรงพยาบาลชั้นนำที่มีประสบการณ์การฉีดไขมันที่หน้าให้กับลูกค้าเป็นจำนวนหลายแสนรายต่อปี ซึ่งการฉีดไขมันที่หน้า มีหลายบริเวณที่นิยมฉีดกัน เช่น ฉีดไขมันที่หน้าผาก ฉีดไขมันใต้ตา ฉีดไขมันปรับรูปหน้า ฉีดไขมันหน้าเด็ก ฉีดไขมันที่คาง ฉีดไขมันที่จมูก

เทคนิคการฉีดไขมันที่หน้า ในปัจจุบันแตกต่างจากเมื่อก่อนเยอะมาก จากเมื่อก่อนไขมันที่ฉีดเข้าไปจะมีส่วนตายจำนวนมาก ทำให้กำหนดปริมาณและขนาดได้ยาก ผลลัพธ์จึงไม่ดีเท่าที่ควร และคนไข้ต้องกลับมาเติมไขมันหลายครั้งกว่าจะได้ผลลัพธ์จนเป็นที่พอใจ  แต่ปัจจุบัน เทคนิคการเติมไขมันได้ถูกพัฒนาขึ้นมาก ทำให้หลังฉีดไขมันเข้าไปแล้ว ไขมันมีการตายน้อยลง ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีประสิทธิภาพมากขึ้นเทคนิคการฉีดไขมันที่หน้าในปัจจุบันแตกต่างจากเมื่อก่อนเยอะมาก จากเมื่อก่อนไขมันที่ฉีดเข้าไปจะมีส่วนตายจำนวนมาก ทำให้กำหนดปริมาณและขนาดได้ยาก ผลลัพธ์จึงไม่ดีเท่าที่ควร และคนไข้ต้องกลับมาเติมไขมันหลายครั้งกว่าจะได้ผลลัพธ์จนเป็นที่พอใจ  แต่ปัจจุบัน เทคนิคการเติมไขมันได้ถูกพัฒนาขึ้นมาก ทำให้หลังฉีดไขมันเข้าไปแล้ว ไขมันมีการตายน้อยลง ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วิธีฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้า | Fat Filler

ฉีดไขมันที่หน้า เป็นการปลูกถ่ายไขมัน โดยใช้เทคนิคการดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย เช่น ดูดไขมันออกจากต้นขา หน้าท้อง สะโพก โดยหลังจากได้ไขมันครบตามที่ต้องการแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมไขมันโดยกระบวนการปั่นแยกให้ได้ไขมันที่มีชีวิตที่มีคุณภาพสูง แล้วนำกลับมาฉีดเข้าไปในใบหน้าตรงบริเวณที่มีความบกพร่อง เพื่อเติมเต็มชั้นใต้ผิวหนัง  และปรับรูปร่างส่วนที่จะทำการฉีด โดยเซลล์ไขมันที่ฉีดยังมีชีวิตอยู่  หลักการของการฉีดไขมันคือการเติมเต็มส่วนต่างๆของร่างกาย คล้ายการรักษาด้วยฟิลเลอร์  แต่ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า

ขั้นตอนการฉีดไขมันหน้า

  1. ทำการดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
  2. แยกไขมันให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพสูง และไขมันที่มีชีวิต
  3. ทำความสะอาดใบหน้า ฆ่าเชื้อที่ใบหน้าและฉีดยาชา
  4. นำไขมันคุณภาพที่คัดมาแล้วกลับมาฉีด เข้าไปที่ใบหน้าบริเวณที่มีข้อบกพร่อง

ข้อดี

  • ไม่มีแผลเป็น
  • ไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เพราะเป็นการใช้ไขมันตนเอง
  • ไขมันที่ฉีดเข้าไปหลังจากผ่านไป 6 เดือน จะอยู่ได้อย่างถาวร
  • ไขมันเป็นฟิลเลอร์ที่มีชีวิตสามารถฟื้นฟูสภาพความมีชีวิตชีวาของผิวหน้าได้ เพราะไขมันมีสเต็มเซลล์ไขมันปนอยู่ ทำให้หลังฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้าไปแล้ว จะดูเป็นธรรมชาติ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ปลอดภัย100%

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถดูดไขมันจากคนที่น้ำหนักตัวน้อยหรือผอมมากๆ ได้
  • แม้ว่าผลการเติมเต็มไขมันจะดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีการสลายตัวบางส่วนของไขมันอยู่ ซึ่งปริมาณการสลายตัวของไขมันนั้นขึ้นกับธรรมชาติของแต่ละคน และในแต่ละตำแหน่งของร่างกายก็จะมีการตอบสนองที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นเพื่อความสมบูรณ์ของใบหน้าจึงอาจต้องมีการทำซ้ำสองถึงสามครั้ง หรือบางคนที่มีความสมบูรณ์ของใบหน้ามากพออยู่แล้ว ก็อาจจะทำแค่ครั้งเดียวจบก็ได้

รีวิว ฉีดไขมันที่หน้า

รีวิว ฉีดไขมันที่หน้า

รีวิว ฉีดไขมันที่หน้า ด้านข้าง

การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้า

  • แจ้งประวัติการแพ้ยา ยาและอาหารเสริมที่รับประทาน รวมถึงโรคประจำตัว และประวัติการผ่าตัดให้แพทย์ทราบ และนำยาที่รับประทานประจำมาให้แพทย์ประเมิน
  • งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด (กลุ่มยา Aspirin, Ibuprofen) วิตามินเอ อี ซี สมุนไพร โสม  ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา ก่อนรับบริการ 2 สัปดาห์
  • งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและระยะการบวมที่นานกว่าปกติ
  • ไม่ต้องอดอาหาร แต่ควรรับประทานอาหารไม่ให้อิ่มเกินไป
  • งดการผ่าตัดในช่วงที่เป็นหวัด ไอ ไข้ หรือป่วย
  • ควรอาบน้ำสระผม ทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดเรียบร้อยก่อนการผ่าตัด
  • ไม่ควรใช้เครื่องสำอางใดๆ ในบริเวณใบหน้า ที่ยากแก่การเช็ดออกก่อนการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
  • เตรียมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย ถอดใส่ง่าย
  • ก่อนการผ่าตัดควรทำใจให้สบาย เพราะการฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

การปฏิบัติตัวหลังฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้า

  • 24 ชม. แรก งดการนวดหน้า ทาครีม โลชั่น
  • 48-72 ชม.แรก ประคบเย็นด้วยเจลประคบ เพื่อลดบวม
  • ควรนอนให้ศีรษะสูงใน 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารร้อน ของหมักดอง อาหารที่แข็งที่ย่อยยาก
  • งดแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการบวมที่นานกว่าปกติ
  • รับประทานยาตามเวลาที่แพทย์สั่ง
  • มาตัดไหม ตามแพทย์นัด
  • ถ้ามีอาการผิดปกติหรือแดงมากให้กลับมาพบแพทย์

คำถามที่มักพบบ่อยๆ เกี่ยวกับการฉีดไขมันที่หน้า

1. ดูดไขมันจากร่างกายส่วนไหนเอามาฉีดที่ใบหน้า ?

ไขมันในส่วนที่มีคุณภาพดีที่สุด คือไขมันบริเวณหน้าท้อง ก้น ต้นขา สะโพก  (ซึ่งเป็นคนละแบบกับที่ดูดสลายไขมันลดความอ้วน เพราะแบบนี้มีความร้อน สเต็มเซลล์จากไขมันจะตายหมด) เมื่อดูดมาแล้ว จะนำมาปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมาใช้ + ผสมกับเนื้อเยื่อไขมันแล้วจึงฉีดเข้าใบหน้า

2. ฉีดไขมันที่หน้า อยู่ได้นานเท่าไหร่ ?

ฉีดไขมันเข้าไปแล้วจะมีส่วนที่อยู่ในร่างกาย 60-70% ลดหายหรือเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักของร่างกาย ส่วนอีก 30-40% จะค่อยๆสลายหายไป

3. ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ไขมันที่ฉีดไว้บนใบหน้าจะหายไหม ?

ไขมันที่หน้าจะมีหายไปบ้างตามน้ำหนัก ตาหากว่าทำให้น้ำหนักคงที่ไขมันบนใบหน้าจะอยุ่ได้คงทนนานที่สุด

4. สามารถเอาไขมันของคนอื่นมาฉีดได้ไหม ?

เอาไขมันสเต็มเซลล์คนอื่น มาฉีดเข้าใบหน้าตัวเองไม่ได้ค่ะร่างกายของคนเราจะมีสารแอนติบอดี้ (Anti-Body) เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกที่จะเข้าสู่ร่างกายค่ะ

5. ดูดไขมันส่วนเกินหน้าท้องออกเพื่อลดสัดส่วน แล้วเอามาฉีดเข้าใบหน้าได้ไหม ?

ฟังดูเหมือนจะได้ แต่ไม่ได้นะคะ เนื่องจากไขมันที่ดูดทิ้ง กับ ไขมันที่ดูดเพื่อเอามาฉีดเข้าหน้า เป็นคนละจุดประสงค์ กระบวนการคนละอย่างกันค่ะ เพราะว่าการดูดไขมัน (เพื่อลดสัดส่วน) เครื่องมือที่ดูดจะมีความร้อนเพื่อสลายไขมันให้แตกตัว แล้วเอาไปทิ้ง ความร้อนนี้เองค่ะที่จะทำลายสเต็มเซลล์ที่มีชีวิตในไขมัน ไขมันส่วนที่ดูดไปทิ้ง จึงไม่มีประสิทธิภาพที่จะนำมาฉีดเข้าใบหน้าตัวเองค่ะ

6. ฉีดไขมันที่หน้าเจ็บไหมคะ ?

ถ้าบอกว่าไม่เจ็บเลยคือโกหกแน่นอนค่ะ จากประสบการณ์ตรงที่เคยทำมาคือ เป็นความเจ็บที่ทนได้แน่นอนค่ะ แต่ก็มีใช้ยาสลบหรือยาชาเป็นตัวช่วยจะทำให้ความเจ็บน้อยลง

7. หลังฉีดไขมันหน้าจะบวมกี่วัน ควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ?

สามารถดำเนินชีวิตได้ปกติ พอครบ 7 – 14 วัน เอาไหมที่ดูดไขมันออก บริเวณที่ดูดไขมัน อาจมีก้อนไตแข็งเกิดขึ้น หรือช้ำเป็นจุดๆเขียวๆ ซึ่งจะค่อยๆจางหายไปเองในระยะเวลา 1-2 เดือน ช่วงฉีดไขมันใหม่ๆ 1 เดือนแรก ต้องงดอบซาวน่า นวด ใช้ความร้อนบนใบหน้าก่อนนะคะ เพราะความร้อนจำทำให้ไขมันบนใบหน้าสลายหายไปค่ะ

8. จำเป็นต้องไปฉีดซ้ำไหมคะ ?

โรงพยาบาลจะเก็บไขมันสเต็มเซลล์คนไข้ไว้ในตู้เย็นแช่แข็ง Freeze เอาไว้ 3 เดือนค่ะ โดยสามารถบินกลับไปเติมรอบ 2 ได้ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งการไปเติมรอบ 2 นี้ ขึ้นอยู่กับตัวของคนไข้เอง ว่าพอใจกับไขมันที่อยู่บนใบหน้าหรือไม่ หากพอใจแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปเติมค่ะ

9. การฉีดไขมันอันตรายไหมและมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

การฉีดไขมันถือว่าเป็นเทคนิคการทำศัลยกรรมที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากไม่มีสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งสังเคราะห์อะไรเข้าในร่างกายเลย เป็นการย้ายไขมันส่วนที่มีคุณภาพดีจากส่วนอื่นมาไว้ที่ใบหน้าของเราเท่านั้นนั่นเอง

10. ทำไมฉีดไขมันออกมาใหม่ๆ แล้วหัวบวมๆเหมือนปลาทองเลย ?

ไม่ต้องกังวลตรงส่วนที่บวมๆเลยค่ะ ไขมันสเต็มเซลล์ที่ฉีดเข้าไปจะสลายไปเอง ประมาณ 30-40% นั่นหมายความว่า การฉีดครั้งแรก จะต้องฉีดไขมันเกิน เผื่อสลายด้วย ทำให้ช่วงแรก จะบวมๆเหมือนหัวปลาทองนิดนึง แต่ไม่เกิน 4-5 สัปดาห์ จะค่อยๆยุบ แล้วสวยเข้าที่แน่นอน

11. ฉีดไขมันที่ไทยกับเกาหลี ฉีดออกมาแล้วเหมือนกันไหม ?

ผลลัพธ์ที่ออกมาต่างกันมาก เรื่องการเข้าที่และความคงทนอยู่นานของไขมัน เนื่องจากด้วยเทคนิคการฉีด การปั่นแยกเซลล์ ความชำนาญของแพทย์และเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นสำคัญ พูดง่ายๆ คือความชำนาญ ทักษะและอุปกรณ์เทคโนโลยีด้านศัลยกรรม เกาหลียังนำหน้ากว่าไทยอยู่พอสมควร

12. ฉีดไขมันหน้า ที่ไหนดี ?

แนะนำโรงพยาบาล Gyalumhan เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่คนไทยนิยมไปฉีดไขมันกันมาก และยังเป็นโรงพยาบาลที่เน้นการฉีดไขมันเป็นบริการหลักๆ อีกด้วย ทำให้ที่นี่ใส่ใจเรื่องการให้บริการเป็นพิเศษ

13. ใช้เวลาในห้องผ่าตัดนานเท่าไหร่ ?

ประมาณ 40 – 60 นาที

14. การฉีดไขมัน มีกี่แบบ แบบไหนดีที่สุด?

การฉีดไขมัน มี 2 แบบ

แบบที่ 1 Autologous Fat graft

คือ การดูดไขมันจากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือก้น มาผ่านกระบวนการคัดกรองให้เหลือเนื้อเยื่อไขมัน แล้วฉีดกลับเข้าไปเติมเต็มใบหน้าต่อไป

แบบที่ 2 Cell-Assisted lipotransfer: CAL

คือ การนำเนื้อเยื่อไขมันที่คัดกรองออกมาจากการดูดไขมันจากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือก้น แล้วนำมาผสมกับสเต็มเซลล์ไขมันเพื่อช่วยเพิ่มอัตราการอยู่ได้นานของไขมันที่ฉีดเข้าไป

สรุปสาระสำคัญ

สรุป คือ ฉีดไขมันที่หน้า แบบที่ 2 ดีที่สุดเพราะ มีการผสมกันระหว่างไขมันกับสเต็มเซลล์ ทำให้ไขมันบนใบหน้าจะอยู่นานขึ้น ไขมันสลายน้อยลง