การฉีดวิตามินผิวขาว ถือเป็นวิธีปรนนิบัติผิว ที่จะช่วยทำให้สีผิวมีความขาวกระจ่างใสขึ้น ภายในระยะเวลาที่รวดเร็วภายใน 3 – 7 วัน ดังนั้นเราจึงเห็นว่าการฉีดวิตามินผิวได้รับความนิยมจากทั้งคนทั่วไป และ เหล่าดารา เน็ตไอดอล ที่ต้องการดูแลให้ผิวพรรณดูสวย และ มีสุขภาพดีอยู่เสมอ แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังตั้งคำถามอยู่ว่า การฉีดวิตามินผิวทำให้ผิวขาวขึ้นได้จริงหรือไม่? วันนี้เราจะมาตอบคำถามพร้อมอธิบายแบบเจาะลึก สามารถอ่านได้ในเนื้อหาดังต่อไปนี้
ทำไมต้องฉีดวิตามินซีให้ผิว
การฉีดวิตามินผิว คือทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายในระยะเวลารวดเร็ว แต่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ผู้ที่พักผ่อนน้อย มีภาวะเจตแล็ก เครียด หรือ ผู้ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดอยู่เสมอ ด้วยการฉีดเติมวิตามินผิวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เข้าทางเส้นเลือดดำ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามิน ไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเผาผลาญจากร่างกาย ส่งผลให้การ ฉีดวิตามินผิว เห็นผลดีกว่าการรับประทาน วิตามินหรือการทาบำรุงหลายสิบเท่า
ฉีดวิตามินผิว ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การฉีดวิตามินผิวสามารถช่วยฟื้นบำรุงสภาพผิวให้กลับมาขาวกระจ่างใสและนอกจากนี้ยังช่วย กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำใหริ้วรอยของผิวดูจางลง และนอกจากนี้ ยังสามารถช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดวิตามิน จะขึ้นอยู่กับส่วนผสมของวิตามินแต่ละสูตร
ข้อดีและข้อเสียของการฉีดวิตามินผิว
การฉีดวิตามินผิวอาจจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรทราบก่อนตัดสินใจดังนี้
ข้อดีของการฉีดวิตามินซีผิว
- ช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างล้ำลึก
- เห็นผลของการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วภายใน 3 ถึง 7 วัน
- ช่วยปรับให้สีผิวมีความเรียบเนียนและ สม่ำเสมอขึ้น
- ช่วยให้ผิวขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน
- ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และ ยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้อีกด้วย
- ลดการเกิดขึ้นของเม็ดสีเมลานิล ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาจุดด่างดำบนผิว
ข้อเสียของการฉีดวิตามินซีผิว
- ต้องฉีดอย่างต่อเนื่องเพื่อการเห็นผลที่ชัดเจน
- ผลลัพธ์ที่ได้เป็นผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร เนื่องจากผิวต้องการบำรุงอย่างล้ำลึกอยู่ตลอดเวลา
- อาจมีคนไข้บางกลุ่มที่ไม่สามารถได้รับการฉีดวิตามินผิวได้
วิธีทำให้ผิวกระจ่างใส นอกจากฉีดผิวมีวิธีไหนอีกบ้าง?
นอกจาก การฉีดวิตามินผิวแล้วยังมีอีกหลายวิธี ที่จะสามารถช่วยทำให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้นได้ดังนี้
- การรับประทานวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นประจำเช่นวิตามินซีวิตามินอี หรือวิตามินรวม
- การรับประทานอาหารเสริมที่มีผลต่อ สภาพผิวเช่น Collagen glutathione เป็นต้น
- การทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ Whitening และ การทาครีมกันแดดอย่างเป็นประจำทุกวัน
- การสครับผิว เพื่อเป็นการเร่งผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไป
การฉีดวิตามินผ่านผิวหน้าโดยตรง VS ฉีดผ่านสายเกลือ มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
การับวิตามินเข้าสู่ร่างกายมีวิธี 2 แบบด้วยกัน โดยการฉีดโดยตรงและการฉีดผ่านสายน้ำเกลือ โดยทางเราจะเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ถึงความแตกต่างของทั้ง 2 ตัวนี้
- การฉีดวิตามินทางใบหน้าโดยตรง จะเป็นกลุ่มของศาล MADE ที่สามารถจะฉีดบนใบหน้าของคุณด้วยโดยตรงโดยเป็นการประกอบทั้งวิตามินคอลลาเจนเพื่อบำบัดและแก้ไขปัญหาผิวเบาๆให้แข็งแรงขึ้น
- การฉีดวิตามินผ่านสายน้ำเกลือ สำหรับรูปแบบการให้วิตามินเข้าสู่กระแสเลือดในรูปแบบนี้จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุโดยจะเพิ่มประสิทธิภาพและเห็นผลเร็วกว่าชนิดอื่น หรือเราอาจจะคุ้นเคยอีกหนึ่งชื่ออย่าง IV Drip
ระหว่างการฉีดวิตามินหรือการรับประทานวิตามินแบบเม็ด ผลลัพธ์ที่ได้เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
สำหรับการรับการบริการระหว่างฉีดหรือรับประทานวิตามินหากพูดอย่างแท้จริงแล้วการรับวิตามินแบบฉีดจะทำให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วมากยิ่งกว่าโดยร่างกายจะสามารถดึงนำไปใช้ได้เลยทันทีหลังจากรับวิตามินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของการรับประทานหรือกินวิตามินแบบเม็ดจำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งที่จะได้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการฉีดวิตามิน
ฉีดวิตามินผิวเหมาะกับใครบ้าง?
- เหมาะคือผู้ต้องการวิตามินแต่ไม่สะดวกจะรับวิตามินด้วยการรับประทานอาหาร
- เหมาะกับพูดที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วภายใน 7 วัน
- เหมาะกับผู้ที่มีอาการของโรคภูมิแพ้
- เหมาะกับผู้ที่พักผ่อนน้อย และ มีความเครียด
- เหมาะกับผู้ที่มีสภาพผิวแห้งกร้าน และ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
ขั้นตอนการฉีดวิตามินผิว
เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดทุกครั้ง และ ปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- พบแพทย์เพื่อรับการแนะนำ และ วัดความดันโลหิต ชีพจร อุณหภูมิกาย น้ำหนัก และส่วนสูง เพื่อใช้ในการคำนวณปริมาณและความเข้มข้นของวิตามินที่ใช้
- หากมีโรคประจำตัว หรือ มีอาการแพ้ยาควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
- แพทย์ให้วิตามินเข้มข้นทางหลอดเลือดดำบริเวณข้อพับแขน โดยโช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
- หลังจากได้รับการฉีดวิตามินผิวแล้ว คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น
สำหรับการฉีดวิตามินผิวใสสามารถฉีดผ่านบริเวณข้อพับโดยอาศัยสายน้ำเกลือเข้าสู่เส้นเลือดดำ เพื่อเติมอาหารให้แก่ผิวและสารวิตามินจะเข้าสู่ร่างกายโดยตรงและดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าการรับวิตามินที่มีประโยชน์เปรียบเสมือนท่านรับประทานอาหาร ผัก หรือผลไม้ ซึ่งเทียบเท่ากับการฉีดวิตามินเพียงแค่ 1 ครั้ง ทำให้การฉีดวิตามินจึงถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและประหยัดเวลาสำหรับผู้ที่อยากดูแลตัวเองแต่ไม่มีเวลา
ฉีดวิตามินผิว เห็นผลจริงมั้ย? ต้องฉีดกี่ครั้ง?
การฉีดวิตามินผิวจะช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง มีออร่า และ ขาวใสขึ้นได้จริง ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ตั้งแต่หลังการฉีดครั้งแรก โดยแนะนำให้ฉีดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อรักษาผลลัพธ์ ในการมีผิวสุขภาพดีไปตลอด แต่ การฉีดวิตามินผิวไม่สามารถเปลี่ยนให้คนสีผิวเข้ม กลายเป็นคนสีผิวขาวได้
ฉีดวิตามินผิว ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างไร
เพราะวิตามินฉีดผิวจะมีส่วนประกอบของ Vit C, Vit B, Amino , NAC , Antioxidant หรือ Collagen ซึ่งเป็นสารที่ให้ประโยชน์กับผิวโดยตรง และ ส่วนประกอยสำคัญอย่าง NAC เป็นโครงสร้างที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่สามารถช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์ Glutathione ได้ดีมากยิ่งขึ้น
หลังฉีดวิตามินต้องรอกี่วันจึงจะเห็นผล
การฉีดวิตามินผิว สำหรับผู้ที่สภาพผิวไม่มีปัญหามากจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ 3 – 7 วัน หลังการฉีดครั้งแรก และ สำหรับผู้ที่ผิวมีปัญหามากจะเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่หลังการฉีดครั้งที่ 3 เป็นต้นไป โดยผิวจะค่อยๆมีความนุ่มลื่น กระจ่างใส ชุ่มชื้นขึ้น
การฉีดวิตามินผิว ควรฉีดบ่อยแค่ไหน?
หากต้องการให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนแนะนำให้ฉีดทุกสัปดาห์ ในช่วงเดือนแรก และ หลังจากนั้นให้ฉีดทุกๆ 2 สัปดาห์เพื่อคงสภาพผิวสุขภาพดีเอาไว้
ฉีดวิตามินผิวใสบ่อยๆ อันตรายไหม?
หากพูดในแง่มุมของความอันตรายการใช้วิตามินที่ไม่ได้รับมาตรฐานหรือไม่มีอย. ไม่ได้รับการให้บริการจากทีมแพทย์ จะส่งผลค่อนข้างรุนแรงหรือเอฟเฟคหลังจากการฉีดไม่ว่าจะเป็นสภาวะ คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ หรืออาจถึงขั้นไปถึงการช็อคและหมดสติอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต เพราะฉะนั้นจำเป็นจะต้องเลือกสถานที่เข้ารับการบริการที่มีมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือรองรับ และสิ่งที่สำคัญคือหลับภายใต้ปริมาณที่เหมาะสมและพอดี โดยหากได้รับปริมาณที่มากเกินไปก็จะผลเสียกลับคืนมาด้วยเช่นเดียวกัน
- สภาวะคลื่นไส้อาเจียน
- สภาวะโลหิตจาง
- ความดันสูง
- ปวดศีรษะ
ถ้าหยุดฉีดวิตามินผิว ผิวจะกลับไปหมองคล้ำเหมือนเดิมหรือไม่?
โดยปกติแล้วหลังจากฉีดวิตามินไปคุณอาจพบกับร่องรอยผิวช้ำหรือเป็นจุดแดงบริเวณที่ฉีด แต่สำหรับบางท่านอาจมีสภาวะในการแพ้สารหรือผิดปกติหากคุณมีอาการรู้สึกระระคายเคือง หายใจไม่สะดวก จำเป็นจะต้องรีบเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินอาการโดยด่วน หากหยุดฉีดวิตามินผิว อาจทำให้ผิวกลับมาคล้ำเสียได้ ซึ่งไม่ได้มีสาเหตุมาจากวิตามิน ผิวขาดการบำรุงที่ล้ำลึกอย่างสม่ำเสมอ และ ยังถูกทำร้ายจาก มลภาวะทางอากาศ ฝุ่นควัน แสงแดด และ อายุที่เพิ่มขึ้นทุกวันโดยไม่มเกราะป้องกันนั่นเอง
ใครบ้างไม่สามารถฉีดวิตามินผิวได้
- หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือ อยู่ในช่วงที่กำลังให้นมบุตร
- คนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจที่ต้อง ทานยาเป็นประจำ และ ความดันโลหิตต่ำ
- คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน (ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ)
- คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
- คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคสภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
หลังการฉีดวิตามินผิวขาว ดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม?
หลังการฉีดวิตามินผิว แนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆ จะก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ซึ่งจะส่งผลให้เซลล์ต่างๆ เสื่อมตัวได้เร็วขึ้น ผิวเหี่ยวย่น และ ก่อให้กิดริ้วรอยต่างๆนั่นเอง
เลือกฉีดฉีดวิตามินผิว อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย?
- เลือกฉีดวิตามินผิวกับคลีนิคที่มีมาตรฐาน และ มีความน่าเชื่อถือ
- คลินิกต้องมีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง
- คลินิกมีหลายสูตรวิตามินให้เลือกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
- คลินิกต้องใช้วิตามินที่ได้มาตรฐาน ผ่านอ.ย.
- ฉีดโดยคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อการเห็นผลที่ชัดเจน
การเตรียมตัวและการดูแลตัวเองหลังฉีดวิตามินผิว
การเตรียมตัวก่อนฉีดวิตามินผิว
- ปรึกษาคุณหมอ เพื่อทำการประเมินปัญหาผิว และ เพื่อปรับสูตรวิตามินให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน
การดูแลตัวเองหลังฉีดวิตามินผิว
- หลีกเลี่ยงแสงแดดที่เป็นตัวการทำร้ายผิว
- ทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 เป็นประจำทุกวัน
- หลีกเลี่ยงการเช็ดถู หรือ การสัมผัส บริเวณที่ฉีด
- ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตรขึ้นไป
ฉีดวิตามินผิว ที่ไหนเห็นผลได้ดี?
สำหรับท่านที่ต้องการเข้ารับการบริการสิ่งที่คุณต้องคำนึงที่สุดเลยก็คือ ความปลอดภัยในการรับการบริการจากสถานที่ให้บริการ ความน่าเชื่อถือของคลินิก ผลการรีวิวจากผู้ใช้งานจริง และสิ่งที่สำคัญเลยก็คือ ยี่ห้อสามารถตรวจสอบได้และมีเครื่องหมายอย. ปรากฏอย่างชัดเจน แนะนำว่าท่านจำเป็นจะต้องสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับตัวยาเพื่อเช็คว่าของแท้หรือไม่ โดยปกติแล้วในคลินิกความงามส่วนใหญ่จะสะดวกบอกข้อมูลและรายละเอียดอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้รับบริการได้มีความมั่นใจต่อการเข้าใช้งานมากยิ่งขึ้น
สรุป
การฉีดวิตามินผิวถือเป็นทางลัด ที่จะช่วยทำให้ผิวขาวเปล่งปลั่ง มีสุขภาพดีขึ้นภายในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าการทานวิตามิน และ การบำรุงผิวด้วยวิธีอื่น อีกครั้งการฉีดวิตามินผิวยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงอันตรายต่อร่างกาย จึงทำให้ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่การฉีดวิตามินผิวควรฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ และคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้นเพื่อการเห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น